สูตร ฮานอย พิเศษ

• wOSdxnVaez
• 2024-06-16 17:32:54

สูตร ฮานอย พิเศษ

มองตลาดหุ้นภาคบ่ายแกว่งตัวโดยมีกรอบการเคลื่อนไหวอยู่ที่ 1,665-1,680 จุด โดย SET Index ในช่วงเช้ามีมูลค่าการซื้อขายที่เบาบางเนื่องจากตลาดไร้ปัจจัยใหม่กระตุ้นรวมถึงการที่นักลงทุนรอติดตามตัวเลข GDP ไตรมาส1/62 ของสหรัฐฯในคืนนี้ โดยตัวเลขคาดการณ์ล่าสุดอยู่ที่ 2.0% QoQ ถือว่าอยู่ในระดับต่ำกว่าตัวเลขในไตรมาส4/61 หากอ้างอิงจากรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ FED จะพิจารณานโยบายการเงินโดยอิงกับตัวเลขเศรษฐกิจ หากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯที่ออกมาอ่อน-ทรงตัว น่าจะยังสนับสนุนให้ FED ใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายต่อไป

3.การปิดงานและการนัดหยุดงาน เช่น 1)กำหนดให้นายจ้างอาจปิดงานหรือลูกจ้างอาจนัดหยุดงานได้  แต่ต้องแจ้งเป็นหนังสือให้พนักงานประนอมข้อพิพาทแรงงานและอีกฝ่ายทราบล่วงหน้าก่อน เป็นเวลาอย่างน้อย 24 ชั่วโมง 2) กำหนดให้การปิดงานหรือการนัดหยุดงานในงานที่เป็นบริการสาธารณะ ได้แก่ โรงพยาบาลหรือสถานพยาบาล  ไฟฟ้า ประปา โทรศัพท์หรือโทรคมนาคมบรรเทาสาธารณภัย ควบคุมการจราจรทางอากาศ และกิจการอื่นตามที่ประกาศกำหนด โดยฝ่ายที่ปิดงานหรือนัดหยุดงาน จะต้องจัดให้มีบริการสาธารณะขั้นต่ำเท่าที่จำเป็น เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อประชาชน

อนึ่ง โดยปี 2557 บริษัทฯ มีรายได้รวม 8,484 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12% จากรายได้รวม 7,573 ล้านบาท ในปี 2556 โดยบริษัทฯ มี กำไรขั้นต้น 1,705 ล้านบาทในปี 2557 เพิ่มขึ้น 40% จากกำไรขั้นต้น 1,218 ล้านบาทในปี 2556 และบริษัทฯ มี EBITDA ในปี 2557 เพิ่มขึ้น 55 % เป็น 1,384 ล้านบาท จาก EBITDA จำนวน 891 ล้านบาทในปี 2556 และมีกำไรสุทธิ 661 ล้านบาทในปี 2557 เพิ่มขึ้น 416 % จากกำไรสุทธิ 128 ล้านบาทในปี 2556 ซึ่งบริษัทฯ มีความสามารถในการทำกำไรในปี 2557 สูงกว่าอัตรากำไรขั้นต้นเฉลี่ยของกลุ่มผู้ผลิตอาหาร ในตลาดหลักทรัพย์ฯ

ส่วนโรงไฟฟ้าแห่งแรกขนาดกำลังการผลิต 7.5 เมกะวัตต์ใน จ.นราธิวาส ภายใต้ เซฟ เอนเนอร์จีฯ ซึ่งใช้เงินลงทุนราว 750 ล้านบาท มีกำหนด COD ราววันที่ 9 เม.ย. คาดว่าจะมีการรับรู้รายได้จากการขายไฟให้กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ปีละไม่ต่ำกว่า 250 ล้านบาท หลังจากมีกำลังผลิตไฟฟ้าเพิ่มขึ้น และมีรายได้เข้ามามากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ก็จะนำธุรกิจเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยในปีหน้าจะคัดเลือกที่ปรึกษาทางการเงิน (FA) คาดว่าจะกระจายหุ้นและนำหุ้นเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ราวปลายปี 61 หรืออย่างช้าต้นปี 62

ส่วนประเด็นมหภาคในประเทศที่สำคัญในเดือนนี้ได้แก่ กนง.จะประชุมในวันที่ 4 พ.ย.และคาดว่า กนง.จะยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายเอาไว้ที่ 1.5% เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจและเงินเฟ้อพื้นฐานยังสมดุลดันอยู่ นอกจากนี้ สภาพัฒน์ก็จะประกาศตัวเลข GDP ไตรมาส 3 ในวันที่ 16 พ.ย.นี้ซึ่งคาดว่าจะโต 2.9% จากปีก่อน ซึ่งหากออกมาระดับดังกล่าวจะเท่ากันพอดีกับระดับเติบโต 2.9% จากปีก่อนในครึ่งแรกปี 58 โดยได้แรงหนุนจากการเร่งเบิกจ่ายงบภาครัฐ และการเกินดุลการค้าที่สูง ขณะเดียวกันยังคงประมาณการ GDP ปีนี้และปีหน้าไว้ที่ 3.0%และ 3.4% ตามลำดับ