• R7iSYjyZDo
• 2024-07-08 08:28:55

ด้านยอดกำไร 260.41 ล้านบาทในไตรมาส 3 ประกอบด้วยผลประกอบการจากประเทศไทย 100 ล้านบาท จากกัมพูชา 130 ล้านบาท ในขณะที่บริษัทย่อยในประเทศไทยคือธนบรรณ และบริษัทย่อยใน สปป.ลาว สามารถสร้างผลกำไรได้แห่งละ 15 ล้านบาท นายทัตซึยะกล่าวชี้แจงว่า ธุรกิจในประเทศไทยจะขยายตัวอย่างต่อเนื่อง แต่ในอัตราที่ต่ำกว่าการขยายตัวที่รวดเร็วในตลาดต่างประเทศทุกแห่ง ดังนั้น ส่วนแบ่งกำไรของประเทศไทยจากกำไรทั้งหมดของบริษัทฯ จะลดลงจากประมาณ 40% ในปีนี้ เหลือ 20% ในปีหน้า และลดต่ำลงอีกหลังจากนั้น

โดยราคาหุ้นปรับตัวขึ้นแรงรับมติที่ประชุมคณะกรรมการวานนี้ (26 ก.ย.) ออกหุ้นเพิ่มทุน 107,500,000 หุ้น เพื่อรองรับการใช้สิทธิของหลักทรัพย์แปลงสภาพ ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของ บริษัท เอ็น.ดี. รับเบอร์ จำกัด (มหาชน) รุ่นที่ 1 (NDR-W1) จัดสรรให้กับผู้ถือหุ้นสามัญเดิม อัตราส่วน (หุ้นเดิม : หลักทรัพย์แปลงสภาพ) 2 : 1 อัตราการใช้สิทธิ (ใบสำคัญแสดงสิทธิ : หุ้น) 1 : 1 ราคาการใช้สิทธิ 3 บาทต่อหุ้น อายุใบสำคัญแสดงสิทธิ 2 ปี นับแต่วันที่ออกและเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิ

ขณะที่แผนการดำเนินงานในช่วงที่เหลือของปีนี้ บริษัทจะจับมือกับบมจ.ศรีสวัสดิ์ พาวเวอร์ 1979 (SAWAD) เพื่อนำตู้เติมเงินบุญเติมไปตั้งหน้าสาขาของ SAWAD โดยวางเป้าหมาย 250 สาขา รวมทั้งการติดตั้งระบบชั่งน้ำหนักพ่วงไปกับตู้เติมเงิน คาดว่าสิ้นปีนี้จะติดตั้งได้ 10,000 จุด พร้อมกันนั้นจะร่วมมือกับทางห้างสรรพสินค้าบิ๊กซีเพื่อนำตู้เติมเงินและตู้กดน้ำดื่ม RO ไปตั้งในพื้นที่ของห้าง เพื่อให้บริการเติมเงินและกดน้ำคิดค่าบริการ 1 บาท/ 1 ลิตร คาดว่าจะตั้งตู้ดังกล่าวมากกว่า 100 จุด

โดยราคาหุ้นปรับตัวขึ้นแรงรับมติที่ประชุมคณะกรรมการวานนี้ (26 ก.ย.) ออกหุ้นเพิ่มทุน 107,500,000 หุ้น เพื่อรองรับการใช้สิทธิของหลักทรัพย์แปลงสภาพ ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของ บริษัท เอ็น.ดี. รับเบอร์ จำกัด (มหาชน) รุ่นที่ 1 (NDR-W1) จัดสรรให้กับผู้ถือหุ้นสามัญเดิม อัตราส่วน (หุ้นเดิม : หลักทรัพย์แปลงสภาพ) 2 : 1 อัตราการใช้สิทธิ (ใบสำคัญแสดงสิทธิ : หุ้น) 1 : 1 ราคาการใช้สิทธิ 3 บาทต่อหุ้น อายุใบสำคัญแสดงสิทธิ 2 ปี นับแต่วันที่ออกและเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิ

ด้านยอดกำไร 260.41 ล้านบาทในไตรมาส 3 ประกอบด้วยผลประกอบการจากประเทศไทย 100 ล้านบาท จากกัมพูชา 130 ล้านบาท ในขณะที่บริษัทย่อยในประเทศไทยคือธนบรรณ และบริษัทย่อยใน สปป.ลาว สามารถสร้างผลกำไรได้แห่งละ 15 ล้านบาท นายทัตซึยะกล่าวชี้แจงว่า ธุรกิจในประเทศไทยจะขยายตัวอย่างต่อเนื่อง แต่ในอัตราที่ต่ำกว่าการขยายตัวที่รวดเร็วในตลาดต่างประเทศทุกแห่ง ดังนั้น ส่วนแบ่งกำไรของประเทศไทยจากกำไรทั้งหมดของบริษัทฯ จะลดลงจากประมาณ 40% ในปีนี้ เหลือ 20% ในปีหน้า และลดต่ำลงอีกหลังจากนั้น