นิ เค อิ วัน นี้

• u7k64RUpQl
• 2024-05-20 08:19:04

นิ เค อิ วัน นี้

ทั้งนี้หน่วยงานจะทำรายละเอียดคำของบประมาณส่งสำนักงบประมาณผ่านระบบ e-Budgeting ในวันที่ 15 ม.ค.64 และสำนักงบประมาณจะพิจารณาและจัดทำรายละเอียดระหว่างวันที่ 18 ม.ค.-9 มี.ค.64  เพื่อเสนอ ครม.ในวันที่ 16 มี.ค.64 จากนั้นจะผ่านไปตามกระบวนการจนนำเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรในวาระที่ 1 ระหว่างวันที่ 26-27 พ.ค.64 วาระที่ 2-3 วันที่ 11-13 ส.ค.64 และเข้าสู่การพิจารณาของวุฒิสภาในวันที่ 23-24 ส.ค.64  จากนั้นสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีจะนำร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2565 ขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายในวันที่ 7 ก.ย.64  เพื่อประกาศบังคับใช้เป็นกฎหมายต่อไป

กรรมการ UREKA กล่าวอีกว่า จากการประเมินของผู้บริหารของบริษัทฯ คาดว่าจะเริ่มรับรู้รายได้ในไตรมาสที่ 3 ปี 2563 และสามารถรับรู้รายได้ทุกโครงการภายในไตรมาสที่ 4 ปี 2563  เมื่อรวมกับมูลค่าสินทรัพย์ที่จะลงทุนครั้งนี้จะทําให้บริษัทฯมีการเติบโตด้านทรัพย์สินเพิ่มขึ้น จะทําให้บริษัทฯ ได้รับผลดีในด้านความเชื่อมั่นจากบุคคลที่เกี่ยวข้อง เช่น สถาบันการเงิน ลูกค้า และผู้ถือหุ้นของบริษัท และ สร้างภาพลักษณ์ที่ดีของบริษัท ในการเป็นคู่สัญญาในโครงการภาครัฐอื่นๆ เพิ่มเติมในอนาคต อีกทั้งยังช่วยผลักดันให้ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ เทิร์นอะราวด์ตามแผนงานที่วางไว้

สำหรับความคืบหน้าการลงทุนเหมืองแร่ลิเทียมภายใต้บริษัท Lithium Americas Corp. (LAC) ที่ BCP ถือหุ้น 16% นั้น คาดว่าจะสามารถผลิตลิเทียมจากเหมืองที่อาร์เจนตินา เฟสแรก 25,000 ตัน/ปีในปี 63 และจะเพิ่มเป็น 50,000 ตัน/ปีในปี 65 ใช้เงินลงทุน 500 ล้านเหรียญสหรัฐ ขณะที่เหมืองแร่ลิเทียมแหล่งเนวาดาในโครงการ The Thacker Pass ที่สหรัฐฯ แบ่งการผลิตเป็น 2 เฟส โดยเฟสแรก กำลังผลิต 30,000 ตัน/ปีจะเริ่มก่อสร้างในปี 63 แล้วเสร็จในช่วงปี 65-66 หลังจากนั้นจะเริ่มก่อสร้างระยะที่ 2 อีก 30,000 ตัน/ปี โดยเงินลงทุนทั้งโครงการในสหรัฐฯจะอยู่ที่ราว 900 ล้านเหรียญสหรัฐ

สำหรับความคืบหน้าการลงทุนเหมืองแร่ลิเทียมภายใต้บริษัท Lithium Americas Corp. (LAC) ที่ BCP ถือหุ้น 16% นั้น คาดว่าจะสามารถผลิตลิเทียมจากเหมืองที่อาร์เจนตินา เฟสแรก 25,000 ตัน/ปีในปี 63 และจะเพิ่มเป็น 50,000 ตัน/ปีในปี 65 ใช้เงินลงทุน 500 ล้านเหรียญสหรัฐ ขณะที่เหมืองแร่ลิเทียมแหล่งเนวาดาในโครงการ The Thacker Pass ที่สหรัฐฯ แบ่งการผลิตเป็น 2 เฟส โดยเฟสแรก กำลังผลิต 30,000 ตัน/ปีจะเริ่มก่อสร้างในปี 63 แล้วเสร็จในช่วงปี 65-66 หลังจากนั้นจะเริ่มก่อสร้างระยะที่ 2 อีก 30,000 ตัน/ปี โดยเงินลงทุนทั้งโครงการในสหรัฐฯจะอยู่ที่ราว 900 ล้านเหรียญสหรัฐ