ท ี เด็ด 69

• tUCqKBQ18o
• 2024-05-22 01:37:07

ท ี เด็ด 69

นายวัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทสามารถคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SAMART เปิดเผยว่า ธุรกิจสาย Related Business โดยบริษัท วันทูวัน คอนแทคส์ จำกัด (มหาชน) หรือOTO ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ ตั้งเป้ารายได้ในอีก 4 ปีข้างหน้าจะเติบโตแตะ 2.5 พันล้านบาท และตั้งเป้ารายได้ปีนี้ที่ 1.3 พันล้านบาท จากปัจจุบันมีงานในมือแล้วกว่า 900 ล้านบาท และคาดจะได้รับงานใหม่เข้ามาเพิ่มอีก 400 ล้านบาท จากลูกค้าทั้งภาครัฐและเอกชน เช่น กลุ่มสายการบิน ธนาคาร โรงพยาบาล ธุรกิจประกัน เป็นต้น

นอกจากนี้จัดสรรหุ้นเพิ่มทุนจำนวน 377.2 ล้านหุ้น รองรับการใช้สิทธิใบสำคัญแสดงสิทธิซื้อหุ้นสามัญ(วอร์แรนต์) จำนวน 4 รุ่น คือ BCPG-W1, BCPG-W2, BCPG-W3 และ BCPG-ESOP  โดยบริษัทฯ จะแจก BCPG-W1 ให้ผู้ถือหุ้นเดิมที่ใช้สิทธิเพิ่มทุน ในอัตรา 2.80 หุ้นเพิ่มทุน ต่อ 1 วอร์แรนต์ ราคาแปลงสิทธิ 8 บาท อายุ 2 ปี อัตราใช้สิทธิ 1 ต่อ 1 ส่วน BCPG-W2  จะแจกให้กับผู้ถือหุ้นเดิมที่ใช้สิทธิเพิ่มทุนเช่นกัน ในอัตรา 2.80 หุ้นเพิ่มทุน ต่อ 1 วอร์แรนต์  ราคาแปลงสิทธิ 8 บาท อายุ 3 ปี อัตราใช้สิทธิ 1 ต่อ 1

PRIME Lifestyle เอกสิทธิ์ด้านไลฟ์สไตล์เพื่อเติมเต็มการใช้ชีวิต รับสิทธิ์บัตรโดยสารสายการบินในประเทศฟรี 1 ครั้งต่อปี บริการห้องพักรับรองพิเศษ Royal Orchid Lounge/ Royal Silk Lounge และ The Coral Executive Lounge ที่สนามบินดอนเมือง สุวรรณภูมิ และสนามบินภูมิภาค 2 ครั้งต่อปี สิทธิ์ใช้บริการฟิตเนสที่สถานบริการชั้นนำ อภินันทนาการเครื่องดื่มที่สตาร์บัคส์ทุกวันที่ 15 ของเดือน นาน 6เดือน สิทธิ์ส่วนลดพิเศษห้องพักโรงแรมในเครืออนันตรา และสิทธิพิเศษเพื่อสุขภาพจากโรงพยาบาลชั้นนำทั่วประเทศ

แกว่งตัวในแดนลบกรอบ 1,475-1,495 ตลาดหุ้นไทยขาดปัจจัยบวกที่จะผลักดันดัชนีทะยานกลับขึ้นไปเหนือ 1,500 จุด ทำให้อ่อนตัวลงมา โดยเรามองว่าดัชนี SET Index ช่วงสั้นยังมีโอกาสแกว่งผันผวน เพื่อรอดูผลประกอบการกลุ่มธนาคารพาณิชย์ โดยถ้าออกมาตามคาดหรือดีกว่าคาดน่าจะผลักดันให้ตลาดฟื้นตัว เราคาดสื่อสารที่มีปันผลระหว่างกาลและหุ้นปูนใหญ่ที่ได้ประโยชน์จากน้ำมันลง และคาดรายงานกำไรไตรมาส 2/58 ดี จะเป็นหุ้นที่ช่วยประคอง trading sentiment ในช่วงนี้ (แนวต้าน: 1,490-1,495 // แนวรับ: 1,480 และ 1,475)

อย่างไรก็ดี ตลาดฯยังเป็นลักษณะของการเลือกเล่นหุ้นเป็นรายตัว โดยวันนี้มีหุ้นใหม่ บมจ.ศรีตรังโกลฟส์ (ประเทศไทย) หรือ STGT ที่มีวอลุ่มเทรดเกือบ 30% ของวอลุ่มเทรดโดยรวม และหุ้นในกลุ่มพลังงาน และกลุ่มปิโตรเคมี ก็ปรับตัวดีขึ้นด้วย ทำให้ตลาดบ้านเราสามารถปรับตัวขึ้นมาบวกได้กว่า 1% พร้อมกันนี้ได้ให้รอติดตามการทยอยประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนงวดไตรมาส 2/63 ที่กลุ่มแบงก์จะประกาศออกมาก่อน และติดตามผลทดสอบภาวะวิกฤติ (Stress Test) ของธนาคารพาณิชย์ที่จะส่งให้แบงก์ชาติในสิ้นเดือน ก.ค.